วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

โรงเรียน 3 D

ที่มาของโครงการโรงเรียน 3D
นายจุรินทร์ ลักษณวิศษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงการปฏิรูปการศึกษารอบสอง เน้นให้เด็กไทยเป็น คนเก่ง ดี มีสุข และภูมิใจในความเป็นไทย ที่วิทยาลัยชุมชนพังงา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2552 พร้อมแนะแนวปฏิบัติตามนโยบาย 3D
เรื่องดี เป็นนโยบายชัดเจนที่ผมได้ประกาศในเรื่อง 3D เราต้องการสร้างเด็กที่จบการศึกษาทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา อาชีวะ หรือการศึกษานอกโรงเรียน เด็กที่จบออกมาอย่างต้องมี 3D ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดีไทย และ D อังกฤษ ด้วย
คำว่า "ดี" ภาษาไทย ก็ คือ 1. เราต้องการให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย 2. คือต้องมีคุณธรรม จริยธรรม มีผิดชอบ ชั่วดี เด็กที่จบออกมา ถ้ารู้ผิดชอบ ชั่วดี มีหิริโอตตัปปะ ผมคิดว่าครบถ้วนทุกอย่าง จะรู้อะไรควรทำไม่ควรทำ ทุจริตเป็นอย่างไร 3. ต้องห่างไกลยาเสพติด อันนี้ คือ โครงการสามดี ภาษาไทย
ส่วน D ภาษาอังกฤษ คือ 1. Democracy คือ ประชาธิปไตย 2. Decency คือ คุณธรรม จริยธรรม รู้ผิดชอบ ชั่วดี 3. Drug คือ ยาเสพติด
ในเรื่องประชาธิปไตยสิ่งที่ต้องการเห็นก็คือ ประการแรก เด็กที่จบการศึกษามาทุกคนจะต้องเชื่อมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและต้องรังเกียจการซื้อสิทธิ์ขายเสียง "อันนี้ไม่ได้ทำเพื่อนักเรียนการเมือง แต่เพราะโรคร้ายของระบบประชาธิปไตย คือการซื้อสิทธิ์ขายเสียง นำมาซึ่งการทุจริตคอรัปชั่นของการถอนทุนคืน เพราะลงทุนซื้อเสียงไปเยอะในที่สุดก็สร้างปัญหาให้ระบบอประชาธิปไตย และเป็นปัญหาบ้านเมืองแตกแยกกัน จนถึงทุกวันนี้ ต้นเหตุหนึ่งก็คือการทุจริต" เพราะฉะนั้นตรงนี้่จึงเป็นที่มาของความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราต้องปลูกจิตสำนึกให้เด็กรังเกีจยต่อการซื้อสิทธิ์ขายเสียงขณะนี้ทำคู่มือซื้อสิทธิ์ ขายเสียง หมายความว่า ทุกโรงเรียนทุกระดับต้องมีการเรียนการสอนและจัดกิจกรรม
ส่วนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ก็ต้องมีการจัดโครงการกิจกรรม มีตัวชี้วัดชัดเจนต่อไปเด็กมีความดีงามเพิ่มขึ้นวัดด้วยอะไร ตอนนี้มอบหมายไปแล้ว จะมีการประชุมเรื่องนี้อีกรอบทุกโรงเรียน ทุกสถาบันการศึกษาต้องมีการจัดกิจกรรมในเรื่องนี้
ในเรื่องสิ่งเสพติด อันนี้ทุกโรงเรียนทุกสถานศึกษาต้องถือเป็นพื้นที่ที่สำคัญอันหนึ่งจะต้องดำเนินการทั้งมาตรการป้องกัน ป้องปราม ปราบปราม ถ้าพบว่าเด็กนักเรียน นักศึกษา เป็นผู้ค้าเสียงเอง แต่ถ้าติดก็ต้องนำไปบำบัดรักษา ซึ่งอันนี้ต้องสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 5 รั้ว ป้องกัน ค้อ รั้วสังคม รั้วครอบครัว รั้วชุมชน รั้วโรงเรียน และรั้วชายแดน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น